Episodes
Saturday Aug 14, 2021
จมน้ำ จมอารมณ์ 050864
Saturday Aug 14, 2021
Saturday Aug 14, 2021
ธรรมเทศนาออนไลน์
โดย พอจ.กระสินธุ์ อนุภัทโท
5 สิงหาคม 2564 เช้า ห้องพาจิตกลับบ้าน
ก็พยายามที่ให้อุปมาไป ให้นึกถึงว่าข้างในเรา จะมีสภาพของวิถีชีวิต
ที่ได้ฟังเล่ามาและทุกคนก็ตาม จะเจอมรสุมชีวิตตลอด
น้ำเหมือนอารมณ์ บางครั้งก็ขุ่น บางครั้งก็ใส บางครั้งก็เกรี้ยวกราด บางครั้งก็ราบเรียบ บางครั้งก็สงบนิ่ง นั่นเป็นเรื่องของคลื่นที่จะมา
กระทบกับชีวิตเรา
เมื่อก่อนเราหวั่นไหวกับมัน ไม่ว่าจะมาแบบไหนเราก็จะหวั่นไหวกับมัน จนเราลืมฝั่ง ลืมที่อยู่ของเราเอง
ณ ปัจจุบันนี้เราได้กลับมาอยู่กับฝั่ง ได้ขึ้นมาจากน้ำกันบ้างแล้ว แต่...แล้วแต่เราจะขึ้นมาระดับไหน
หลวงพ่อเทียนเคยบอกว่า เวลาเราจมน้ำ..เราจมน้ำระดับไหน บางครั้งเราจมน้ำหรือมันคว่ำ จมน้ำระดับลึก ก็กว่าจะโผล่ขึ้นมาได้ ก็อึดอัด สำลักน้ำ คือหายใจไม่ออก แต่ก็ยังไม่ถึงกับตาย มันเหมือนกับเรา "จมน้ำลึก" ที่เรายังต้องว่ายอยู่ตลอด บางครั้งก็ถูกกระแสน้ำ ถูกคลื่น
อันนี้อุปมานี้เหมือนกับเรา บางทีเมื่อก่อนเราจมไปในอารมณ์ยาว นาน ข้ามวัน ข้ามเดือน ข้ามปี บางทีที่เรามักจมไปเรื่อย ๆ นี่ใน "ระดับน้ำลึก" เวลาเราจมไปใน "อารมณ์ลึก ๆ" มัน "ไม่หายซักที" มันเกิดอยู่นั่นแหละ มันเป็นอยู่นั่นแหละ เวียนแล้ว เวียนซ้ำ เวียนซาก "ไม่ค่อย
ผ่านไปง่าย ๆ" นี่เขาเรียกว่า "จมในระดับน้ำลึก"
ถ้าจมใน"ระดับน้ำตื้น" ๆ หน่อย เวลามันจมไปปุ๊บ มันจมในอารมณ์ สักพักมันก็โผล่ขึ้นมาหายใจได้ ภาวะอารมณ์เหล่านั้นมันก็สลายหายไปได้เร็ว ไม่อยู่กับเรานาน แต่ยังจมอยู่นะ เพราะว่า "ขายังหยั่งไม่ถึง" "ตีนยังหยั่งไม่ถึง" อยู่ เวลาโดนมันซัดมันเซเข้ามาแต่ละทีแล้วเนี่ย เหมือนเราเห็นว่า บางครั้งบางช่วงเรามีอารมณ์โกรธนะ เกลียดนะ ขัดเคืองนะ คับแค้นนะ แต่ "มันหายไวขึ้น" มันเปลี่ยนแปลงได้ไวขี้น นี่ใน "ระดับน้ำตื้น" พอจมไปแล้วถึงพื้น แล้วก็ดันขึ้นมาได้ ยันขึ้นมาได้ นี่คือระดับนี้ เป็นระดับที่ทำให้เรารู้สึกกับเรื่องราวต่าง ๆ ที่มันเปลี่ยนแปลงไปกับเราเร็วขึ้น ไม่เหมือนเก่า
ถ้าขึ้นไปอีกหน่อยนึง คือ "ระดับแค่คอ" บางทีมันก็สำลักน้ำ คือ สำลักอารมณ์บ้าง แต่ว่าตั้งตัวได้ไว อาจจะโดนเซไปบ้าง นิด ๆ
หน่อย ๆ แต่ "ตีนมันหยั่งถึงพื้นแล้ว" มันไม่ต้องตะเกียกตะกายว่ายให้เหน็ดเหนื่อย ให้ทุกข์ทรมานเหมือนอย่างเก่า แต่ว่ามันยังเซซ้าย เซขวา เซหน้า เซหลังอยู่ แต่ก็ยังไม่เป็นไร อย่างน้อยมันยังหยั่งพื้นอยู่ มันไม่ท่วมคอ ไม่ต้องว่ายแล้ว แต่ให้ "ประคองตัวเองเฉย ๆ" อันนี้จะเห็นว่าอารมณ์เหล่านั้นมันจะแค่มากระทบ แล้วเรากระเทือนเอนไปนิดหน่อย เอนไปนิดหน่อย แล้วก็ "ตั้งหลักได้ไว" นี่ใน "ระดับที่ตีนเราหยั่งถึงพื้น"
ขยับขี้นมาอีก ขึ้นมาถึง "แค่เอว" อันนี้ก็แม้แต่มีอารมณ์มากระแทกกระเทือนบ้าง แต่ว่าไม่โอนเอน เอียงไปกับมันมากนัก "ตั้งมั่นได้ระดับนึง" แต่ยังมีแรงกระทบอยู่ ยังมีคลื่นกระทบอยู่เสมอ ๆ แต่ก็ยังพอประคองตัวเองได้ นอกจากคลื่นแรง ๆ ก็เซนิดหน่อย แต่ "ประคองได้เร็ว ตั้งตัวเองได้เร็ว" เหมือนคนที่เจอภาวะวิกฤติของชีวิตที่เกิดขึ้นมา แต่กลับลุกขึ้นมาตั้งตัวเองได้เร็วขึ้นกว่าเก่า ไม่เหมือนระดับแรก ๆ ที่เราไม่ได้ฝึก
พอขี้นมาถึงระดับมันตื้นถึง "ตาตุ่ม" บ้าง ถึง "เข่า" บ้าง มันก็แค่รู้สึกว่ามีบางสิ่งบางอย่างมากระทบเฉยๆ แต่"จิตใจไม่ได้หวั่นไหว" ไปกับอะไร
จนกว่าเรา "ขี้นถึงฝั่ง" โอเคเรานั่งดูมัน ความรู้สึกแค่นั่งดูมัน เราไม่ได้เปียกน้ำ ไม่ได้นั่นแล้ว "นั่งดูอารมณ์" มันมากระทบกับจิตใจเรา
"จิตใจเราก็ไม่ได้หวั่นไหวไปกับอารมณ์ที่มากระทบอยู่เรื่อย ๆ" นี่คือระดับมัน
แต่ที่เราฝึกรู้สั้น ๆ สั้นๆ เนี่ย จะอยู่ระดับของเอว ของแข้ง ของตาตุ่มเพราะว่ามันจะทำให้อารมณ์มันโผล่ขึ้น มันไหลผ่านเราได้เร็วขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ติด ไม่จมนาน เพียงแต่มาแล้วก็ผ่านไป มาแล้วก็ผ่านไป
จึงใช้อุบายให้การฝึกว่าให้มันรู้สั้น ๆไ ว้ เพื่อจะทำให้มันหลุดไปจากจิตจากใจ ผ่านจากจิตจากใจไปได้ไวขึ้น มันจะได้ไม่เอนเอียง เหมือนเก่า นี่คือระดับการเปลี่ยน เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ของมัน ทำให้จิตมันได้อารมณ์นี้บ่อย ๆ รู้สึกสั้น ๆ ทีละขณะ ๆ
จะเห็นว่าทุกสรรพสิ่งมันเกิดไวมาก ผ่านไวมาก ดับไวมาก ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่เราไม่มีภาวะของอารมณ์สั้น ๆ มันจะยืดเยื้อและยาวนาน ข้ามวัน ข้ามเดือน ข้ามปีไป เจ็บซ้ำเจ็บซาก แต่ก็เหมือนเดิมนั่นแหละ อาการพวกนี้ไม่ได้มีความแตกต่าง จะเจ็บกี่ที ๆ ก็เหมือนเดิม เหมือนไฟจะเกิดกี่ทีๆ ก็เหมือนเดิมเหมือนกันแหละ เพียงแต่เราจะรู้จักบริหารจัดการมันอย่างไร
เลยว่าให้เราฝึกฝนอารมณ์นี้ อารมณ์รู้สั้น ๆ ในใจ กับทุกสิ่งที่มันส่งมาเป็นคลื่น ทีละขณะ ๆ สัมผัสให้มันได้บ่อย ๆ แล้วเรา เราจะรู้ว่าจิต
เราอยู่ในระดับไหน
ระดับยังว่ายน้ำอยู่ ตีนยังหยั่งไม่ถึง
หรือระดับยังว่ายน้ำอยู่ แต่ตีนหยั่งถึงแล้ว
หรือระดับตีนหยั่งถึง ขึ้นมาสูงแค่คอ
หรือขึ้นมาแค่เอว ก็เซไปบ้าง
หรือแค่แข้ง แค่ตาตุ่ม
หรือขึ้นนั่งฝั่งแล้ว
เมื่อขึ้นมาถึงฝั่งแล้ว ถ้าเรารู้อยู่กับการรับรู้สังเกตเห็นเรื่อย ๆ ต่อไปเราจะสังเกตว่าอุปมาเหมือน
ฝั่งก็ไม่ใช่เรา
ทะเลก็ไม่ใช่เรา
ไม่มีเราในทะเล
ไม่มีเราในฝั่ง
แต่มีผู้ที่รู้ทั้งฝั่งรู้ทั้งทะเล
ถึงเวลาไม่สนใจทั้งทะเล ไม่สนใจทั้งฝั่ง ก็กลับบ้านได้
ไม่ได้ยึดติดในฝั่ง ไม่ได้ยึดติดในทะเล
แต่แค่มาเที่ยวโฉบทะเลมันเป็นอย่างนี้นะ
คลื่นมันเป็นอย่างนี้นะ
ฝั่งมันเป็นอย่างนี้นะ
ถึงเวลาฉันก็อยู่กับตัวฉันเอง ด้วยความเป็นอิสระ แล้วก็เบิกบานได้เรื่อย ๆ ท่ามกลางพายุอารมณ์ทั้งหลายทั้งปวงนี่แหละ
ก็เลยอยากให้เราได้อารมณ์ตัวนี้กันให้มาก
ฝึกฝนกันให้ต่อเนื่องการรู้สั้น ๆ กับทุกสรรพสิ่ง จะเป็นภายใน หรือภายนอก ทุกอย่างที่มากระทบกับเรา เราก็จะเห็น
เมื่อกี้อาตมาฟัง ก็จะเห็น เกิดขึ้นครั้งหนึ่ง ๆ ขณะหนึ่งที่เขาพูด และ ในเวลาเดียวกัน มีขณะหนึ่งในใจเราอยากให้ทำอย่างนี้ ๆ ๆ
ในเวลาเดียวกันเราจะเห็นขณะหนึ่งทั้งข้างนอกและขณะหนึ่งข้างในที่มันส่งคลื่นมากระทบกับเรา แต่เราก็ไม่หวั่นไหว อยู่กับหลักของเราไปเรื่อย ๆ
งั้นอุปมาอันนี้ ก็ขอให้เราพยายามฝึกฝนกันให้มากขึ้นในการที่จะสัมผัสทุกสรรพสิ่งแบบสั้น ๆ แบบที่มันเป็นจริง ๆ แค่ขณะเดียว
ไม่งั้นเรามักเกิน ที่มักเกินก็คือเจ้าตัวสังขาร ในบรรดาทั้งหมด รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ตัวเกินก็คือตัวสังขารนั่นแหละ
รูปก็เป็นเพียงแต่รูป
เวทนาเป็นอาการของเวทนา
สัญญามีหน้าที่จำ
วิญญาณทำหน้าที่รู้
สังขารนี่แหละเป็นตัวทำให้เราเกิน มันเลยเถิด สร้างภพสร้างชาติ สร้างความรู้สึกซ้ำ ๆ ซาก ๆ แล้ว ๆ เล่า ๆ ไปเรื่อย ๆ
ก็เห็นมันบ่อย ๆ แล้วรู้สึกมันสั้น ๆ บ่อย ๆ จะทำให้เราขยับตัวเองขึ้นมาจากการที่เราเคยไปลงลึก ขึ้นมาอยู่ตื้น ๆ หน่อย บ่อย ๆ เข้า จนกว่าเราจะปลอดภัย
ขอให้ข้อคิดในเช้านี้เพียงเท่านี้นะ
โมทนาสาธุทุกคนตั้งใจฝึกฝนกันนะ
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ช่องทางอื่นๆในการรับสื่อธรรมะ
YouTube, FaceBook พระอาจารย์กระสินธุ์
Podcast : รู้ขณะเดียว
ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ติดตามรับฟัง..สาธุ
Comments (0)
To leave or reply to comments, please download free Podbean or
No Comments
To leave or reply to comments,
please download free Podbean App.